เจาะประวัติเสื้อแข่งทีมชาติอาร์เจนตินา-ฝรั่งเศส ปีที่ได้แชมป์โลก ก่อนนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022
แต่ก่อนที่จะถึงเวลานั้น ลองย้อนกลับไปที่ แชมป์โลก ทั้ง 2 ครั้งของทีมชาติ ฝรั่งเศส และก็ทีมชาติ อาร์เจนตินา เพื่อสืบเสาะ ค้นหา สิ่งที่น่าสนใจ โดยยิ่งไปกว่านั้นรายละเอียดที่น่าสนใจ ของชุดแข่งหลักในปีที่ทั้งอาร์เจนตินา แล้วก็ฝรั่งเศสได้แชมป์โลก
ทีมชาติอาร์เจนตินา ชุด แชมป์โลก 1978
การคว้าแชมป์โลกทั้ง 2 ครั้งของทีมชาติ อาร์เจนตินา ต้องย้อนหลังกลับไปนานสักหน่อย เพราะว่าเกิดขึ้นในปี 1978 รวมทั้งปี 1986 โดยเนื้อหาการ คว้าแชมป์โลก สามารถอ่านเรื่องราวแบบเจาะลึกได้ที่
ดิเอโก มาราโดนา อัจฉริยะลูกหนังผู้มี ‘หัตถ์ของพระเจ้า’ เป็นบันไดสู่แชมป์โลก
ควรจะต้องกล่าวด้วยว่า เสื้อแข่งของทีมชาติอาร์เจนตินาในปี 1978 ยังไม่มีความซับซ้อนใด ๆ มากนัก แม้ว่าจะเป็นช่วงที่ฟุตบอลกำลังเข้าใกล้กับความเป็นทุนนิยมและตาม
เสื้อแข่งของทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดแชมป์โลกปี 1978 เป็นเสื้อแข่งในลักษณะ ที่แฟนบอลทั่วโลกคุ้นชินตาเป็นอย่างดี ด้วยเหตุว่าเป็นเสื้อแข่งที่มาในสีหลัก นั่นคือ สีฟ้า แล้วก็สีขาว ซึ่งมีลักษณะ เด่นจากธงชาติของประเทศอาร์เจนตินา และยังไม่มีการใช้เทคโนโลยี ของผ้าดัง ที่คุ้นชินในขณะนี้
เสื้อแข่งอาร์เจนตินาในปี 1978 พวกเขาใช้ผลิตภัณฑ์ ของอาดิดาส โดยโลโก้ของอาดิดาส ในเวลานั้นถูกเรียกว่า The Trefoil ก่อนที่กาลเวลาจะแปรเปลี่ยน ให้โลโก้อาดิดาสเปลี่ยนไปเป็น The Triangle ที่มีลักษณะคล้ายกับภูเขา โดยมีความนัยสื่อถึงความท้าทายของนักกีฬาที่จะต้องก้าวข้ามผ่านภูเขาอันชัน ก่อนที่ได้สัมผัสกับความสำเร็จ
ปัจจุบันนี้ โลโก้ The Trefoil ที่ทีมชาติอาร์เจนตินาเคยใช้นั้น ถูกนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์กลุ่มที่อาดิดาสเรียกว่า Adidas Originals ซึ่งจับตลาดสายแฟชั่น
ทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดแชมป์โลก 1986
นี่คือเสื้อทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดประวัติศาสตร์อย่างโดยความเป็นจริง ด้วยเหตุว่าฟุตบอลโลกปี 1986 เป็นปีที่มีเรื่องราวให้ น่าจดจำเป็นต้องอย่างมาก อีกทั้งจาก ความสามารถอันเอกอุดมของดิเอโก มาราโดนา และก็ตามด้วยลูกโหม่งที่ถูกเรียก อย่างโจษจันว่า หัตถ์พระเจ้า ในเกมที่พบกับทีมชาติอังกฤษ
หลังจากประตู Hand of God เกิดขึ้นเพียงแต่ 6 นาที มาราโดนาได้ยิงประตูที่สวยที่สุด ลูกหนึ่งของฟุตบอลโลกด้วยการเลี้ยงผ่านนักฟุตบอลคนแล้วคนเล่าถึง 5 คน ได้แก่ ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์, สตีฟ ฮอดจ์, ปีเตอร์ รีด, เทอร์รี บุตเชอร์ แล้วก็เทอร์รี เฟนวิค กินระยะทางมากถึง 66 หลา ก่อนบรรจงส่งบอลเข้าสู่ก้น ตาข่ายผ่านมือ ปีเตอร์ ชิลตัน ซึ่งประตูนั้นได้กลาย เป็นประตูแห่งศตวรรษของฟีฟ่า หรือ Goal of the Century ในปี 2002
จากทั้งสองประตูที่เกิดขึ้น เลอ กิ๊ป (L’Équipe) หนังสือพิมพ์ของประเทศฝรั่งเศส ได้นำเสนอความเป็นตัวตนของมาราโดนา ในเกมที่ชนะ ทีมชาติอังกฤษเอาไว้สั้นๆแต่ได้ใจความว่า ‘half-angel, half-devil’ ครึ่งเดียวของมาราโดนา ไม่ไม่เหมือนกับเทพบุตร แต่อีกด้านเขาไม่แตกต่างจากซาตาน
ชุดแข่งของ ทีมชาติอาร์เจนตินาในปี 1986 ใช้บริการชุดแข่งของเลอ ค็อก สปอร์ทิฟ (Le Coq Sportif) จากประเทศฝรั่งเศส โดยมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจไม่น้อยว่า ก่อนการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก เริ่มขึ้น สมาคมฟุตบอล อาร์เจนตินา ได้สั่งให้ ผู้สร้างนั่นก็คือ เลอ ค็อก สปอร์ทิฟ พัฒนาเสื้อแข่งรุ่นพิเศษ เน้นไปที่ความบางของเสื้อ รวมทั้งการระบายอากาศที่ดี เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลโลกตอนนั้นมีอุณหภูมิที่สูงมาก
อย่างไรก็ตาม สมาคมฟุตบอลอาร์เจนตินา ลืมคิดไปว่า หากว่าในกรณี ที่อาร์เจนตินาต้องเจอกับทีมชาติ ที่ใช้เสื้อหรือคู่สีที่ตรงกับเสื้อเหย้า สีฟ้า-ขาว ของอาร์เจนตินา ต้องทำอย่างไร เพราะเสื้อที่สั่งคัสตอมนั้น ถูกสั่งเฉพาะเสื้อเหย้า แต่เสื้อเยือน ไม่ได้มีการสั่งการในเรื่องนี้
คราวนี้ปัญหา ก็เกิดขึ้นในเกมที่พบกับทีมชาติอุรุกวัย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เนื่องจากคู่สี ของทีมชาติอาร์เจนตินา รวมทั้งอุรุกวัย ใกล้เคียงกัน โดยเกมนั้นอาร์เจนตินาต้อง สลับไปใส่ชุดเยือน ซึ่งเป็นสีน้ำเงินเข้ม ส่งผลให้เสื้อแข่งผู้เล่นอาร์เจนตินา รวมทั้งซุปเปอร์สตาร์อย่างดิเอโก มาราโดนา ต้องชุ่ม โชกไปด้วยเหงื่อ และเนื้อผ้าของชุดเยือนที่หนากว่าชุดเหย้าเป็นอย่างมาก
กระทั่งในเกม รอบควเตอร์ไฟนัล อาร์เจนตินา ต้องเจอกับทีมชาติอังกฤษ ซึ่งสวมเสื้อสีขาว ทำให้เสื้อแข่งของทั้งสองทีม เกิดการชนกันอีกครั้งหนึ่ง
ด้วยเหตุดังกล่าวแล้วในช่วง 48 ชั่วโมงสุดท้ายก่อน ที่เกมระหว่างทีมชาติอาร์เจนตินา รวมทั้งอังกฤษ เริ่มขึ้น ทีมงานเทคนิคที่เกี่ยวข้องด้านชุดแข่งขันต้องเร่งหาเสื้อที่มีสีฟ้าที่มีโลโก้ของเลอ ค็อก สปอร์ทิฟ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีความบาง แล้วก็ระบายอากาศได้ดี อย่างกับชุดเหย้า
ในช่วงแรกทีมเทคนิค ของทีมชาติอาร์เจนตินาไม่มั่นใจว่า ชุดสีน้ำเงินของเลอ ค็อก สปอร์ทิฟ ที่ได้มาเวิร์คหรือไม่เวิร์ค แต่เมื่อการเผยตัวของดิเอโก มาราโดนา ในห้องของทีมเทคนิค ปรากฏว่า มาราโดนากลับถูกใจเสื้อที่ทีมเทคนิคไม่มั่นใจในตอนแรก แล้วก็มาราโดนายืนยันว่าต้องการสวมชุดนี้ดวล กับทีมชาติอังกฤษ
จากนั้นทีมเทคนิคต้องใช้เวลาตลอด 24 ชั่วโมงสุดท้ายทำงานด้วยความโกลาหล แน่นอนว่าการปักโลโก้ทีมชาติอาร์เจนตินาไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็มาติดขัดตรงที่หมายเลขเสื้อ
สุดท้ายทีมชาติอาร์เจนตินา เอาตัวรอดจากปัญหานี้ได้ด้วยความช่วยเหลือจากทีมอเมริกันฟุตบอลในท้องถิ่น ที่มอบหมายเลขของทีมให้มาใช้งาน แม้ว่าจะไม่สวยงามมากนัก แถมยังมีกลิตเตอร์บนตัวเลข แม้ว่าจะแปลก แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีให้ใช้ เนื่องจากเวลาไม่เหลือให้พวกเขาอีกแล้ว
ทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์โลก 1998
นี่คือชุดแข่งที่ทำให้ ทีมชาติฝรั่งเศสไปถึงแชมป์โลกเป็นสมัยแรก ทั้งยังในรอบชิงชนะเลิศยังเป็นการถล่ม หมายเลขหนึ่งของฟุตบอลโลกอย่างทีมชาติบราซิลลงอย่างราบคาบ 3-0
จุดที่น่าสนใจของเสื้อ ทีมชาติประเทศฝรั่งเศสในปี 1998 อยู่ตรงที่ เป็นเสื้อสีน้ำเงินตามสไตล์ของทีมชาติประเทศฝรั่งเศส ปกสีขาวที่มีเล่นลวดลายแบบเดียวกับธงชาติฝรั่งเศส จากนั้นบริเวณไหล่ไล่มาจนถึงแขนเสื้อมาพร้อมทั้งสัญลักษณ์ 3 แถบของอาดิดาส ปลายแขนเสื้อมี กุ๊นพร้อมด้วยสีน้ำเงิน-สีขาว-สีแดง ตามธงชาติฝรั่งเศสเหมือนกัน
หน้าอก ของตัวเสื้อมีขีดสีแดงขนาดใหญ่พาดอยู่ ไล่ระดับลงมาจะมีขีดสีขาวบาง ๆ จำนวน 3 ขีด ส่วนโลโก้ของอาดิดาส ใช้สัญลักษณ์ The Triangle ที่คุ้นเคยกันดีในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครที่ติดตาม ทีมชาติฝรั่งเศสมานาน อาจรู้สึกผิดหวังในการออกแบบของเสื้อทีมชาติฝรั่งเศสในปี 1998 ก็ได้ เนื่องจากในรูปภาพรวม อาดิดาสได้จับเอาเทมเพลตของ เสื้อทีมชาติประเทศฝรั่งเศสในปี 1984 มาใช้แทบทั้งหมด โดยมีการปรับแต่งบางส่วน
สุดท้าย เมื่อเสื้อแข่งทีมชาติฝรั่งเศสในปี 1998 ประสบความสำเร็จจนกระทั่งขั้นเป็นแชมป์โลก ทำให้เสียงของความ ผิดหวังแล้วก็ค่อยๆจางมลายหายไป
ทีมชาติฝรั่งเศส ชุด แชมป์โลก 2018
ชุดแข่งของทีมชาติประเทศฝรั่งเศส ประจำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 เป็นผลิตภัณฑ์ของไนกี้ ซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมกับทีมชาติฝรั่งเศสมาตั้งแต่ปี 2011 จนถึงเดี๋ยวนี้ปี 2022
การออกแบบของไนกี้ เน้นไปถึงการให้ความเคารพต่อธงชาติของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งประกอบไปด้วยสีน้ำเงิน-สีขาว-สีแดง โดยจะปรากฏอยู่ที่บริเวณหลังคอเสื้อ
ด้านหน้า เป็นสัญลักษณ์ตราไก่สีขาว มีสัญลักษณ์ดาว 1 ดวงในฐานะแชมป์โลก 1 สมัย และก็ตามด้วยบริเวณสาบเสื้อ รวมทั้งกระดุม ประทับคำขวัญของประเทศประเทศฝรั่งเศส “Liberté, Egalité, Fraternité” ซึ่งหมายความว่า เสรีภาพ, ความเสมอภาค แล้วก็ภราตฤภาพ
จากนั้นบริเวณไหล่จรดไปถึงแขนเสื้อของเสื้อมีการไล่ระดับอย่างสวยงาม เพื่อสื่อไปถึงเรื่องของความเร็ว สิ่งที่น่าสนใจ ของเสื้อแข่งชุดนี้ อยู่ตรงที่ด้านหลัง เนื่องจากจำนวนของเสื้อนักฟุตบอลทุกคนได้หยิบเอางานสถลาปัตยกรรมสไตล์ Art-deco อันลือชื่อของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีคุณลักษณะเด่นจากการใช้เส้นโค้งและก็เส้นตรง ที่มีความง่ายแต่เต็มด้วยพลัง ความแข็งแกร่ง และก็แสดงถึงความก้าวหน้า
อ่านเรื่องราวการคว้าแชมป์โลกของทีมชาติฝรั่งเศส จากปี 1998
รวมทั้ง 2018 ได้ที่: แชมป์โลกของประเทศฝรั่งเศส ชัยของความหลากหลายทางวัฒนธรรม เท่านั้นยังไม่พอ ทีมชาติประเทศฝรั่งเศสยังมีแนวความคิดเรื่องความแตกต่าง เชื่อเรื่องความหลากหลาย ทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นคนผิวดำ คนอาหรับ คนชาวมุสลิม หรือคนขาวก็ตาม จึงมีการสลักคำว่า Nos Differences Nous Unisset (ความแตกต่างได้รวมพวกเราไว้เป็นหนึ่งเดียว) โดยต่อยอดแนวคิดนี้มาจากทีมชาติประเทศฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก 1998
ในวันที่ทีมชาติประเทศฝรั่งเศส ได้แชมป์โลกปี 2018 อองตวน กรีซมันน์ นักฟุตบอลคนสำคัญจาก ทัวร์นาเมนต์นี้ที่รัสเซีย กล่าวว่า เราอาจมีที่มาจากที่ที่แตกแตกต่างกัน แต่เราทีมชาติประเทศฝรั่งเศส ชุดนี้มีแนวคิดเดียวกัน เชื่อแบบเดียวกัน มีหัวจิตหัวใจแบบเดียวกัน พวกเราทุกคนเล่นเพื่อทีมชาติประเทศฝรั่งเศส เพื่อประเทศของเรา ทันทีที่เราใส่เสื้อสีน้ำเงินของทีมชาติประเทศฝรั่งเศส พวกเราจะทำทุกอย่างเพื่อกันและกัน