ขอให้โชคดี! ‘เคฮิลล์’ รายล่าสุดประกาศแขวนสตั๊ด

โบกมือลาไปอีกรายภายหลัง แกรี่ เคฮิลล์ อดีตเซ็นเตอร์แบ็ค เชลซี ประกาศแขวนสตั๊ดเรียบร้อยแล้วในวัย 36 ปี

อดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษที่ยังผ่านการเล่นกับ แอสตัน วิลล่า, โบลตัน, คริสตัล พาเลซ แล้วก็ บอร์นมัธ คอนเฟิร์มการรีไทร์ของเขาผ่านทางโซเชียล มีเดีย

เคฮิลล์ กวาดความสำเร็จมากที่สุด

ในตอนค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยเขาคว้าแชมป์เมเจอร์มาทุกรายการรวมถึงแชมเปี้ยนส์ลีกแล้วก็พรีเมียร์ลีก

“ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มอบความสุขแล้วก็ความสำเร็จมากมายให้กับผม แล้วจากที่ผมตัดสินใจแขวนสตั๊ด, ผมบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าผมทุ่มเททุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่มีให้กับฟุตบอล” เคฮิลล์โพสต์

“ผมไขว่คว้าในสิ่งที่ผมเคยใฝ่ฝัน, สร้างความทรงจำอันไม่น่าเชื่อขึ้นมา ตั้งแต่ความสำเร็จอันสูงส่งทั้งยังการคว้าแชมเปี้ยนส์ลีกกับพรีเมียร์ลีก, ไปจนถึงเกียรติที่ได้เป็นกัปตันให้ประเทศของผมแล้วก็ เชลซี ในชุดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพนั้นจะเป็นสิ่งที่ติดตัวผมตอลดไป”

“ผมสร้างความสโมสรแสนวิเศษกับผู้คนทั่ววงการฟุตบอล, ตั้งแต่เพื่อนร่วมทีม, ผู้จัดการทีม, ไปจนถึงฮีโร่ที่อยู่เบื้องหลัง ผมเพียงแค่ต้องการขอกล่าวขอบคุณเป็นอย่างมาก”

“การตัดสินใจเลิกเล่นไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย ผมใช้เวลา 20 ปีลงฝึกซ้อมอยู่ทุกวัน, ทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมเพื่อให้ตนเองอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดสำหรับการแข่งขัน เพื่อช่วยให้ทีมที่ผมเล่นให้ได้ประสบความสำเร็จ”

“ผมมีเวลาในการพิจารณาทางเลือกของผม หลังจากใคร่ครวญแล้วก็ทวนอย่างหนักผมก็รู้สึกว่านี่เป็นเวลาสำหรับการมุ่งหน้าสู่ก้าวถัดไปในเส้นทางอาชีพของผม”

“คำขอบคุณพิเศษต้องมอบให้กับครอบครัวอันอเมซซิ่งของผม ที่เคยเป็นอย่างยิ่งใจแล้วก็อยู่เคียงข้างมาตลอดทั้งเส้นทางอาชีพ ตอนนี้ผมมีโอกาสที่จะได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวซึ่งเป็นสิ่งที่ผมตั้งตารอ”

“นอกจากนั้นแล้ว, ฟุตบอลจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนผมตลอดไปแล้วก็เป็นสิ่งที่รัก ด้วยเหตุนั้นนี่เป็นเพียงแค่การปิดฉากชีวิตบทนี้ สำหรับผมแล้วเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการมองถึงอนาคตไม่ใช่อดีต เมื่อบทใหม่ในชีวิตของผมเริ่ม”

เคฮิลล์ เริ่มการค้าแข้งกับ แอสตัน วิลล่า

แต่ก็ได้เล่นไปเพียง 31 เกมตลอดช่วงเวลา 4 ปี แถมผ่านการโดนปล่อยยืมตัวไปอยู่กับ เบิร์นลี่ย์ แล้วก็ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

เขากลายเป็นนักฟุตบอลที่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกอย่างบ่อยเมื่อย้ายซบ โบลตัน ในปี 2008 ก่อนจะลงเล่นไปทั้งหมด 147 เกมแล้วก็ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษคราวแรกในปี 2010

ฟอร์มอันน่าประทับใจทำให้ เคฮิลล์ได้ย้ายซบ เชลซี ในเดือนมกราคม 2012 ด้วยค่าตัวประมาณ 7 ล้านปอนด์ ก่อนจะผ่านการลงสนามไปอีก 290 เกมแล้วก็คว้าแชมเปี้ยนส์ลีกได้ตั้งแต่ซีซั่นแรก ตามด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2014-15 แล้วก็ 2016-17

เขาโบกมือลาจาก เชลซี ในปี 2019 ก่อนจะใช้เวลากับ พาเลซ ต่ออีก 2 ฤดูกาลแล้วก็ลงเล่นในซีซั่นที่แล้วกับ บอร์นมัธ กระทั่งพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม เคฮิลล์ ไม่ได้ลงสนามในช่วง 4 เดือนสุดท้ายกับ บอร์นมัธ โดยเกมที่เขาโดนใบแดงตอนพบกับ บาร์นสลี่ย์ เมื่อวันที่ 29 มกราคมเป็นการลงเล่นเกมสุดท้ายของเขา

เมื่อวันอังคาร อารอน เลนน่อน อดีตปีกของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ก็เพิ่งจะประกาศแขวนสตั๊ดไปเช่นเดียวกัน

เมื่อจบฤดูกาลด้วยการสิ้นสุดอาชีพค้าแข้งของแกรี่ เคฮิลล์ กับเชลซี แนวรับแล้วก็กัปตันทีมคนล่าสุดของพวกเรา หลังจากที่หมดสัญญา เขาก็ได้ถ่ายทอดความรู้สึกให้กับแฟนบอลเดอะบลูส์ได้รับรู้ผ่านหนังสือแมตซ์เดย์ โปรแกรม เมื่อเดือนที่ผ่านมา

เมื่อแกรี่ เคฮิลล์ได้เริ่มเซ็นสัญญากับเชลซีจากโบลตัน วันเดอร์เรอร์ส เมื่อเจ็ดปีครึ่งที่ผ่านมา เขาก็มีบทบาทสำคัญในช่วงที่เขาอยู่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์

เคฮิลล์ย้ายมาอยู่กับทีมในฐานะแนวรับที่ดีที่สุด เขาเป็นทั้งยังตำนานแล้วก็กัปตันทีมของสโมสร หลังจากที่เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกที่พาทีมประสบความสำเร็จทั้งยังในการแข่งขันภายในประเทศหรือในเวทียุโรป รวมถึงการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสองสมัย แล้วก็แชมเปี้ยนส์ ลีก

นักฟุตบอลชาวยอร์คเชียร์จะถูกจดจำในฐานะคนของคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง แล้วก็เขายังเป็นคนมีส่วนช่วยในการพาทีมความแชมป์ลีกทั้งสองครั้ง จากครั้งแรกที่ได้ลงเล่นเคียงข้างจอห์น เทอร์รี่ในปี 201/15 แล้วก็จากนั้นก็ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คทรี หลังจากเป็นตัวเลือกในปี 2016/17 ซึ่งแต่ละครั้งเคฮิลล์สามารถทำผลงานได้อย่างดีที่สุดกระทั่งกระทั่งทีมดีที่สุดประจำฤดูกาลของพีเอฟเอ นับเป็นเกียรติยศ แห่งความสำเร็จของเขาในช่วงเวลาที่อยู่กับสโมสรแห่งนี้

แน่นอนว่า ไม่มีแฟนบอลเชลซีคนไหน ที่จะลืมว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่สุดของสโมสรเมื่อพวกเราสามารถคว้าแชมป์ยุโรปในปี 2012 หลังจากที่มีอาการบาดเจ็บในนัดที่สองของรอบรองชนะเลิศที่พบกับบาร์เซโลนา มันเกือบจะทำให้เขาไม่ได้มีโอกาสลงเล่นในเกมที่สุดยอดที่สุด แต่จากที่เทอร์รี่แล้วก็บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ติดโทษแบน หน้าที่ในการคุมแนวรับก็ตกเป็นของเคฮิลล์ แล้วก็ดาวิด ลุยซ์ ที่พวกเขาไม่สามารถลงซ้อมได้หลายสัปดาห์ก่อนที่ต้องลงเล่นครบทั้งยัง 120 นาที

เคฮิลล์ลงเล่นเต็มเกม โดยยืนรับมือกับความบีบคั้น

กับเกมบุกของบาเยิร์น มิวนิคที่ถาโถมเข้าไป กระทั่งพาเราสามารถเอาชนะการดวลจุดโทษที่เยอรมันได้สำเร็จในสนามของพวกเขาเอง

ความสำเร็จตอนนั้นผ่านไปอย่างเร็วทันใจ เคฮิลล์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมในปี 2017 หลังจากที่จอห์น เทอร์รี่ย้ายออกจากทีมไป ซึ่งเป็นการตัดสินใจนั้นเกิดผลดีต่อแฟนๆแล้วก็ทีม โดยเขาสามารถตอบแทนความไว้วางใจ แล้วก็นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับตัวเขา

หาเจาะลึกลงไปในรายละเอียดในช่วงเวลาเจ็ดปีครึ่งที่ผ่านมา เขาจำเป็นต้องทรหดอดทนในช่วงแรกของเขากับสโมสร จากการที่เขาไม่ถูกส่งลงสนามมาในช่วงสองสามเกมแรก กระทั่งการกระทั่งเขาถูกส่งลงมาในสนามในเกมใหญ่ที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วก็ยืนเป็นคู่แนวรับกับดาวิด ลุยซ์ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือ ความผิดหวังจากที่พวกเราขึ้นนำไปก่อน 3-0 แต่ลงท้ายด้วยการเสมอ 3-3 แต่ในฐานะฟอร์มการเล่นส่วนตัวถือว่าเคฮิลล์ถือว่าทำผลงานได้ดีในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

หลังจากที่อันเดร วิลลาส-โบอาส ออกจากทีมไป เคฮิลล์ก็ได้โอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในสองเกมแรกภายใต้การคุมทีมของโรแบร์โต้ ดิ มัตติโอ ก่อนที่จะทำประตูแรกจาก 25 ประตูของเขากับเชลซี เมื่อเขาโหม่งประตูชัยในเกมที่พบกับเลสเตอร์ ในรอบควอเตอร์-ไฟนอล แล้วก็ประตูแรกในพรีเมียร์ลีกในอีกสามวันถัดมาที่พบกับแมน ซิตี้

เคฮิลล์ กลายเป็นที่รักของแฟนบอล

เมื่อเขาสกัดบอลจากเส้นประตู ซึ่งอาจเป็นประตูชัยของอเดบายอร์ให้กับสเปอร์ในเดอะบริดจ์ แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดในฤดูกาลแรกของเขากับสโมสรมันก็เลยไม่มีข้อสงสัยเลยที่เขาจะได้ลงเล่นในนัดแรกรอบรองชนะเลิศที่พบกับบาร์เซโลนา

เขายืนเป็นคู่ซี้ของจอห์น เทอร์รี่ แล้วก็ทำผลงานได้อย่างดีที่สุดในการรับมือกับสถานการณ์ความบีบคั้นที่ทีมจากประเทศสเปนบุกใส่เข้ามา ทั้งยังการบล็อคลูกยิง แล้วก็เข้าปะทะที่เกิดจากความตั้งใจอย่างแรงกล้า กระทั่งทำให้พวกเราได้เห็นประตูของดิดิเยร์ ดร็อกบาในช่วงครึ่งแรกที่เป็นประตูตัดสินในค่ำคืนนั้น

อาการบาดเจ็บของเขาในนัดที่สองที่แคมป์ นูว ทำให้เคฮิลล์ต้องพลาดการลงสนามไปหลายสัปดาห์ ซึ่งรวมถึงเกมรอบชิงแชมป์เอฟเอ คัพ ที่พบกับลิเวอร์พูล แต่นับเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆที่เขาผ่านความฟิตแล้วก็สามารถลงเล่นได้ในรอบชิงแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกที่พบกับบาเยิร์น มิวนิค ในอีกสองสัปดาห์ถัดมา

ด้วยทีมที่เต็มไปด้วยนักฟุตบอลที่มีอาการบาดเจ็บแล้วก็ติดโทษแบน การลงสนามของเคฮิลล์ แล้วก็ฝ่าซ์ ที่ผ่านความฟิตลงสนามนับเป็นอย่างยิ่งใจที่ดีในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์สโมสร ถึงแม้ทั้งสองจะมีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ก็ตาม แล้วก็แน่นอนว่าต้องยกเครดิตให้พวกเขาที่สามารถยืนระยะในเกมที่เยอรมันถึง 120 นาที

เมื่อเทอร์รี่ยุติการค้าแข้งในช่วงเวลา 22 ปี กับเชลซี ในช่วงซัมเมอร์นั้น เคฮิลล์ก็ได้รับการเสนอชื่อเป็นกัปตันทีมในช่วงพรีซีซั่นที่เอเชีย ซึ่งตัวเขาเองก็กล่าวว่า เขารู้สึกดีใจ แล้วก็ภูมิใจ จากการได้รับเกียรติในครั้งนี้

รายการเอฟเอ คัพ นับเป็นรายการแรกที่เขาทำได้ในปี 2012 แล้วก็ขณะที่เขาไม่ได้มีส่วนในรอบชิงแชมป์ตอนนั้น เขาก็ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมสุดท้ายที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แล้วก็ทำผลงานได้อย่างดีที่สุดร่วมกับอัซปิลิเกวต้า แล้วก็รูดิเกอร์ ทำให้พวกเราเก็บชัยเหนือทีมปีศาจแดง คว้าแชมป์เมเจอร์รายการที่ 7 ในฐานะนักฟุตบอลเชลซี

ในการที่อังกฤษเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เคฮิลล์กลับมาร่วมพรีซีซั่นหลังนักฟุตบอลคนอื่นๆแล้วก็ดาวิด ลุยซ์ได้กลายเป็นหัวใจในแนวรับในตำแหน่งแบ็คโฟวร์

กัปตันทีมของพวกเราได้มีส่วนอย่างยิ่งในการลงเล่นในยูโรป้า ลีก แล้วก็ลีก คัพ ฤดูกาลนี้ แต่เรื่องราวของเขากับเชลซีได้ถูกบันทึกไว้หมดแล้ว เขาสามารถบอกได้ว่ามันเป็นการลาจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยเกียรติตำแหน่งเมื่อเดือนที่ผ่านมาจากการเอาชนะวัตฟอร์ด มันเป็นการลงสนามนัดที่ 291 ให้กับเชลซี เป็นการปิดฉาก 25 ประตูของเขา โดยเขาลงสนาม 4 นัดในยูโรป้า ลีก ซึ่งการคว้าแชมป์รายการล่าสุดนับเป็นรายการที่ 8 ของเขา

การคว้าแชมป์ที่มิวนิค แล้วก็เวมบลีย์ เคฮิลล์นับได้ว่าประสบความสำเร็จทุกสิ่งกับเชลซีแล้ว

ในฐานะนักฟุตบอลที่ดีที่สุด กัปตันที่ดีที่สุด แล้วก็คนๆหนึ่งที่ดีที่สุด เคฮิลล์จะเป็นที่คิดถึงตลอดไปของสโมสร

เขาย้ายมาอยู่กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ด้วยความฝันที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่เขายอมรับว่า เขาไม่เคยคาดหวังว่ามันจะได้อย่างเร็วทันใจ แล้วก็มากมายขนาดนี้ เขาจะออกจากเชลซีไปในฐานะนักฟุตบอลระดับตำนาน

ขอบคุณแกรี่ เคฮิลล์ แล้วก็ขออวยพรให้เจอแต่สิ่งที่ดีที่สุดในอนาคต